|หน้าแรก| |เกี่ยวกับเรา| |ติดต่อทีมงาน| |แจ้งปัญหาการใช้งานแจ้งปัญหาการใช้งาน|
Login
 
!!! ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่านเข้าสู่เว็บบอร์ด www.classicamulet.com !!!

หน้าแรก » ประวัติพระเครื่อง » พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ

ไปยังหน้า
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ
 โพสต์ วันเวลา: 2009-02-09 00:00:00 
สถานะ:
รูปสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: 2011-05-06 00:00:00
สร้างกระทู้: 500
ตอบ: 3608
พระขรัวอีโต้หรือหลวงพ่อขรัวอีโต้ เป็นพระภิกษุ รูปหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าครั้งที่2 ในปี พ.ศ.2310 ในขณะนั้นพม่าได้กวาดต้อนผู้คนเป็นเชลยไปยังกรุงหงสาวดีเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมีพระภิกษุรูปหนึ่งถูกกวาดต้อนไปพร้อมกับโยมน้องสาวร่วมสายโลหิต ไปเป็นเชลยอยู่ที่กรุงหงสาวดีเป็นเวลาหลายปี วันหนึ่งพระภิกษุรูปนั้นเกิดความห่วงใยโยมบิดาและโยมแม่ที่แก่ชราภาพมากแล้วรวมทั้งคิดถึงแผ่นดินเกิดกรุงศรีอยุธยา จึงได้ปรึกษากับโยมน้องสาวว่าจะหลบหนีกลับกกรุงศรีอยุธยา โดยโยมน้องสาวก็เห็นดีด้วย. ในคืนวันหนึ่งจึงนัดแนะกันหลบหนีจากแดนเชลยมุ่งหน้าสู่กรุงศรีอยุธยาลัดเลาะตามป่าเขา เนื่องด้วยพระภิกษุรูปนั้นเป็นผู้ที่เรืองด้วยคาถาอาคม ท่านจึงพาโยมน้องสาวหลบหนีจากข้าศึก รอนแรมค่ำไหนนอนนั้นโดยใช้มีดอีโต้ที่ติดมือมาด้ามเดียวเป็นอาวุธในตอนพักแรมท่านก็จะเอามีดอีโต้คั่นไว้กลางระหว่าง ท่านกับโยมน้องสาว. ใช้เวลารอนแรมเป็นเวลานับเดือนจนผมเผ้ายาวรุงรังคล้ายองคุลีมาร เป็นที่ผิดสายตาผู้คน ในสมัยก่อนพระภิกษุจะปลงผมทุกๆ 15 วัน
เมื่อเดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยา ก็เจอแต่เมืองร้างและซากปรักหักพัง ไร้ผู้คนอาศัย สอบถามว่าประชาชนได้ย้ายไปยังเมืองบางกอก ท่านและโยมน้องสาวจึงได้เดินทางต่อไปยังเมืองบางกอก เมื่อมาถึงก็ได้ไปพักจำพรรษาอยู่ที่วัดเลียบ หรือวัดราชบูรณะในปัจจุบัน.
ในขณะเมื่อชาวบ้านได้พบเห็นพระภิกษุที่ไว้ผมยาวเดินทางมาพร้อมกับหญิงสาว ก็ได้มีเสียงโจทษ์จันกันในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามในพระภิกษุรูปนั้นว่า ท่านยังมีศีลบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า ท่านต้องปราชิกหรือเปล่าเพราะอยู่ร่วมกับหญิงสาวมาเป็นเวลาแรมเดือน พระภิกษุรูปนั้นก็มิได้ตอบโต้อย่างไรเพียงแต่ยืนยันว่าศีลของท่านยังบริสุทธิ์อยู่ ชาวบ้านก็ได้ค้านท่านว่าใครจะเชื่อได้.
ท่านจึงได้ตอบชาวบ้านไปว่าท่านและโยมน้องสาว รู้อยู่แก่ใจดี และอีโต้เล่มนี้เป็นพยานได้ แล้วท่านจึงเดินไปที่สระน้ำพร้อมทั้งกล่าวว่า ถ้าศีลและจริยวัตรของข้าพเจ้ายังบริสุทธิ์อยู่ ขอให้มีดอีโต้เล่มนี้จงลอยอยู่เหนือน้ำ แต่ถ้าหากศีลและจริยวัตรของข้าพเจ้า วิบัติไปขอให้มีดอีโต้เล่มนี้จงจมลงไปในน้ำ แล้วจึงโยนมีดอีโต้เล่มนั้นลงไปในบ่อน้ำ การณ์ปรากฎเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งที่มีดอีโต้เล่มนั้นกลับลอยอยู่บนน้ำเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวบ้านทั้งหลาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรไปเป็นที่เลื่อมใสแก่ชาวบ้านและประชาชนอย่างรวดเร็ว จนได้รับการขนานนามท่านว่า ขรัวอีโต้ลอยน้ำ

พระขรัวอีโต้เป็นพระเครื่องที่มีอายุการสร้างประมาณ 200 ปี มีประวัติการสร้างและผู้สร้างที่ชัดเจน เรื่องอนุภาพและประสบการณ์ก็มีอยู่อย่างมากมายเป็นที่เลื่องลือในทางแคล้วคลาดภัยและคงกระพันชาตรี ถึงกับมีผู้ให้นามว่า พระรอดเมืองใต้ มีเรื่องเล่าว่า ครั้งที่สมเด็จพระสังฆาราช(แพ) วัดสุทัศน์ฯ ยังดำรงพระชนม์อยู่นั้น หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มาพักที่วัด วันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งวิปัสสนาเจริญสมาธิกัมมัฎฐานอยู่นั้น ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ เห็นแสงพวยพุ่งออกมาจากพาน จึงหยิบพานขึ้นมามาดูพบ พระขรัวอีโต้อยู่ในพาน จึงทูลถามสมเด็จพระสังฆาราช(แพ) ถึงเรื่องนี้ สมเด็จพระสังฆาราช(แพ) ทรงชี้แจงว่า เหตุที่มีแสงพวยพุ่งออกมาจากองค์พระขรัวอีโต้เพราะ มีเม็ดพระธาตุผสมอยู่ในเนื้อพระ.

ขอบคุณมากครับ


 
 ส่งข้อความส่วนตัว
 หัวข้อกระทู้: Re: พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ
 โพสต์ วันเวลา: 2009-02-09 00:00:00 
สถานะ:
รูปสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: 2011-05-11 00:00:00
สร้างกระทู้:801
ตอบ: 5336

ข้อมูลแน่นเพียบแบบนี้...ทำให้พระน่าใช้ขึ้นอีกเยอะเลยครับ...ขอบคุณครับ....

 
 ส่งข้อความส่วนตัว
 หัวข้อกระทู้: Re: พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ
 โพสต์ วันเวลา: 2009-02-11 00:00:00 
สถานะ:
รูปสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: 2010-08-14 00:00:00
สร้างกระทู้:36
ตอบ: 1105

ขอบคุณคร๊าบ.บ.บ.บ.บ.บ.บ.บ.บ

 
 ส่งข้อความส่วนตัว
 หัวข้อกระทู้: Re: พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ
 โพสต์ วันเวลา: 2009-10-07 00:00:00 
สถานะ:
รูปสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: 2009-08-13 00:00:00
สร้างกระทู้:7
ตอบ: 351
ขอบคุณครับ
 
 ส่งข้อความส่วนตัว

cron
© 2008 www.classicamulet.com