เห็นหลายกระทู้ของน้องๆ ที่เริ่มสะสมหรือ นำพระเก่าเก็บออกมาสอบถาม ส่วนมากมักเจอปัญหาเดียวกัน คือ พระทำในยุคหลังๆ เสียเป็นส่วนมาก จึงขอฝาก ข้อคิดเล็กๆๆว่า การศึกษาพระกรุ ประการสำคัญ คือ ศึกษาธรรมชาติของเนื้อดิน โลหะ ในแต่ละยุค และ พื้นที่ ดินอยุธยา ก็มีธรรมชาติเฉพาะ ดินกำแพงเพชร สุโขทัยก็มีลักษณะเฉพาะ เช่นกันเป็นต้น วิธีที่ตรงสุดคือหาพระเนื้อครู ที่แท้ ๆ ของเพื่อนๆหรือคนรู้จักมาส่องศึกษา ราดำ คราบกรุ ว่าน ดอกหมาก(ถ้ามี)  พระเนื้อครูที่แท้ๆไม่จำเป็นต้องแพงหากแต่ หักบิ่น ขี้เหร่ แต่เนื้อใช่ ก็ถือเป็นองค์ครู ได้ ครับ

ตัวอย่างพระซุ้มกอ และคราบราดำในซอก รวมถึงว่าดอกมะขาม ...ภาพจาก  นสพ คมชัดลึก 

กรณีที่เราไม่สามารถหาพระแท้ๆ แม้ขี้เหร่ เพราะแพงหลาย  เช่นพระซุ้มกอนี้ เป้นต้น พระเนือครู เรา อาจได้จากพระที่ สร้างในยุคเดียวกัน แต่เป็นพระกรุอื่น เช่นหากเราจะเริ่มศึกษาพระซุ้มกอ ซึ่งเป็นพระกำแพงเพชร เมืองหน้าด่านสุโขทัยในอดีต เราก็หาพระกรุ อื่นๆ ของกำแพงเพชร  ที่เป็นพระสมัยใกล้เคียง ซึ่งราคาต่างกันลิบลับ ดังเช่นในภาพเป็นพระกรุกำแพงเพชรในยุคเดียวกัน ที่ผู้เขียนเก็บไว้ศึกษา ลักษณะ เนื้อดิน กำแพง แร่ ดอกมะขามที่มีลักษณะเฉพาะ จากพระองค์นี้เทียบเคียงแทน ครับ กรณีใช้ได้เสมอ อีกตัวอย่างที่สุดคลาสสิค ที่เราจะศึกษาเนื้อมันเทศ ของพระเชียงแสน แท้ๆ จากพระ เชียงรุ้ง  องค์จิ๋วๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน ทุกประการ ... หลังจากเราถ่องแท้ ในธรรมชาติ ของเนื้อพระ ประการสุดท้ายคือการศึกษาพิมพ์ ตำหนิ ควบคู่กันไป ครับ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆอย่าท้อแท้แต่หมั่นศึกษา ไม่ยากหรอกครับหากตั้งใจขอให้โชคดีนะครับ

ขอบคุณมากครับ..คุณชายที่เข้ามาให้ความรู้กับเพื่อนๆครับ...

ขอบคุณครับ